泰国大麻合法化已过数月,大麻饮料、大麻食品纷纷进入市场,然而,我们也看到了泰国校园里屡现大麻,各种新闻层出不穷,大麻合法化下青少年的身心健康令人忧心!今天我们就来看看各类有关新闻及其解决办法吧!

ความพยายามในการสกัดกั้นกัญชาในโรงเรียน สวนทางกับ “กัญชาเสรี” นอกโรงเรียน ทำให้ครูต้องรับมือกับกัญชาที่ไหลบ่าเข้ามาในโรงเรียน 
对比校外的“大麻自由”,遏制大麻进入校园之内的行动,让教师不得不着手应对蔓延至校园内的大麻。

ตั้งแต่เปิดเทอมหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ครูได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีเด็กเข้าไปเกี่ยวข้องกับกัญชาทุกระดับชั้น และชั้นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับแจ้ง คือนักเรียนชั้น ม.1 
自从Covid-19疫情扩散后的开学起,老师又被告知各个年级都有学生牵涉到大麻,且其中年龄最小的甚至是初一学生。

ปัญหาสำคัญที่สุดของสถานการณ์กัญชาในโรงเรียน คือทิศทางของกระทรวงศึกษาธิการที่ไม่สอดคล้องกับทิศทางของสังคม และนโยบายกัญชาเสรีของภาครัฐ
校园大麻事件中最为重要的问题,就是教育部对待大麻的大方向,与社会大方向及政府的大麻政策存在分歧。

นักเรียนเข้าถึงข้อมูลเรื่องกัญชาได้ง่าย แต่กลับเป็นข้อมูลเพียงด้านเดียวที่ระบุว่า การใช้กัญชาจะทำให้อารมณ์ดี 
学生很容易接触到大麻相关信息,但这些信息极为片面,只是说明了,大麻可以让我们舒缓情绪。

ทางออกของประเด็นเรื่องกัญชาเสรีในโรงเรียนคือ สร้างการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ให้นักเรียนได้ตั้งคำถามกับการใช้กัญชา เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ และเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง 
校园大麻重点问题的出路,就是广开视听,让学生们能够询问大麻相关的问题,为其提供了解大麻有关知识的机会,并使其获得正确的信息。

วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ถือเป็นวัน “ปลดล็อกกัญชา” ของประเทศไทย หลังจากกระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า กัญชาไม่ใช่ “ยาเสพติด” ทั้งยังยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า ส่งออก มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพหรือจำหน่าย รวมถึงการเสพหรือการสูบ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย เพราะไม่มีการเตรียมมาตรการทางกฎหมายเพื่อรับมือกับผลลัพธ์ที่จะตามมา หลังจากประกาศปลดล็อกกัญชา ก็มีข่าวการใช้กัญชาที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายผู้ใช้อย่างแพร่หลาย ทำให้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ประกาศให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพฯ เป็น “เขตปลอดกัญชง - กัญชา” ในวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เช่นเดียวกับตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประกาศว่าโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจะต้องเป็น “โรงเรียนปลอดกัญชา” 
2022年6月9日,是泰国的“大麻解禁日”,这之后泰国卫生部公布了,大麻并不是“毒品”,并废除了生产、进口、出口、家中存放大麻以供使用或销售的罪名,这一系列举措引起了多方的担忧。因为泰国还没有准备好相关法律措施,以迎接解禁后随之而来的种种后果,在宣布解禁大麻后,也出现了许多大麻对使用者身体造成影响的新闻,让曼谷市长Chadchart Sittipunt于2022年6月15日宣布,曼谷辖区内的学校为“无大麻区域”。于此同时,泰国教育部长Treenuch Thienthong也宣布泰国教育部下辖学校必须为“无大麻学校”。

ความพยายามในการสกัดกั้นกัญชาในโรงเรียนที่สวนทางกับ “เสรีกัญชา” นอกรั้วโรงเรียน ทำให้การสั่งห้ามกลายเป็นเรื่องยาก และกลายเป็นความหนักใจที่ “ครู” ต้องหาทางรับมือกับกัญชาที่ไหลบ่าเข้ามาในโรงเรียน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ครูหลายท่านตั้งวง “คุยสถานการณ์กัญชาเสรีในโรงเรียน” เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนปัญหาเรื่องกัญชาในโรงเรียน ที่อาจจะกลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โต หากไม่มีมาตรการรับมือที่ชัดเจน
努力阻止学校内的大麻,而与之相反校园外则是“大麻自由区”,这让校内大麻禁令变为了一件极难实现的事,也成为了“老师”心头的难处,因为老师必须着手阻止大麻进入校园。出于这个原因,许多老师联手于8月7日成立了“谈谈校园内大麻自由”的圈子,以便反映校园内的大麻问题,如果没有清晰明确的对策,这可能成为一个非常棘手严重的大问题。

สถานการณ์กัญชาเสรีในโรงเรียน
学校内的大麻自由情况

ครูหลายคนเริ่มต้นสะท้อนว่า ก่อนจะมีการปลดล็อกตามประกาศกฎหมายกัญชาเสรี ก็เผชิญกับปัญหานักเรียนแอบใช้กัญชาอยู่บ้าง รวมไปถึงสารเสพติดอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากนักเรียนอยากรู้อยากลอง โดยนักเรียนที่ใช้กัญชาจะมีอาการง่วงนอน หลับในห้องเรียน และไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ ขณะที่ครูมักจะใช้วิธีการว่ากล่าว ซึ่งทำให้นักเรียนไม่อยากมาเรียน เนื่องจากรู้สึกอับอายและหวาดกลัว
许多老师开始反映说:在大麻自由法放开了对大麻的束缚之前,也遇到过一些学生偷偷吸食大麻及其他毒品的情况,大部分是因为学生想要了解、想要尝试这类东西,学生吸食大麻后会出现困倦的症状,在教室中睡着,或是无心学习,而老师通常会采取训斥的方法,导致学生因羞愧和恐惧不想来上学。

จากการสังเกตของครูหลายท่าน ตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ที่กินเวลากว่า 2 ปี พบว่าพฤติกรรมขโมยของและใช้กัญชาในนักเรียนมีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีเด็กเข้าไปเกี่ยวข้องกับกัญชาในทุกระดับชั้น และชั้นที่อายุน้อยที่สุดได้รับแจ้งคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
根据许多老师从Covid-19疫情爆发两年后再开学这段期间的观察结果,学生偷窃及吸食大麻的情况有所增加,还有老师收到通知,各个年级的学生都牵涉到了大麻问题,其中年龄最小的学生仅仅才上初一。

 

แม้ว่าครูจะต้องรับมือกับปัญหากัญชาและพยายามหาทางแก้ไขปัญหาการใช้กัญชาขอ งนักเรียน แต่ครูที่เข้าร่วมวงพูดคุยก็สะท้อนว่า การเป็นครูเหมือนอยู่ที่เปลือกของปัญหา เนื่องจากการเข้าถึงรากของปัญหา จำเป็นต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สำหรับโรงเรียนที่ถึงแม้จะถูกระบุว่าเป็นสถานที่ราชการ และไม่อนุญาตให้นำกัญชาเข้ามา แต่เมื่อนักเรียนก้าวเท้าออกจากโรงเรียน ก็สามารถพบเห็นการซื้อขายกัญชาได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้ปัญหาการใช้กัญชาในโรงเรียนกลายเป็นปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
不管老师如何应对大麻问题或是努力寻找办法解决学生使用大麻的问题,但圈内老师的谈话依然反映出,老师依然处于这个问题的表层,因为想要深入根源,必须要依靠警察,尽管学校不允许吸大麻,但只要学生一迈出学校大门,就会很容易看到买大麻的现象,让校园内使用大麻成为了无法百分百控制的问题。

ปัญหาที่คุณครูต้องเผชิญ
教师必须面对的问题

ปัญหาข้อหนึ่งที่ครูสะท้อน คือการเข้าถึงสื่อที่ง่ายเกินไป โดยเฉพาะ TikTok ที่นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลเรื่องกัญชาได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ทว่าข้อมูลที่ปรากฏกลับเป็นข้อมูลด้านเดียวที่ระบุว่า การใช้กัญชาจะทำให้อารมณ์ดี ขณะเดียวกันครูผู้สอนเองก็ขาดความรู้เรื่องกัญชา หรือเรื่องหลักพิษวิทยาของกัญชา ทำให้ครูไม่มีความพร้อมในการสอน หรือรับมือกับเด็กที่ใช้สารเสพติด
老师们反映的问题之一是,学生太容易接触到社交媒体了,特别是TikTok,学生们动动手指就很容易接触到与大麻有关的信息,且这些信息往往是片面的,比如说使用大麻会让我们心情好,同时教师本身也缺乏对大麻或其毒理学知识的了解,使得老师没有做好教学或是应对使用毒品的学生的准备。 

ในทางกลับกัน ครูบางส่วนที่ตระหนักถึงความสำคัญของการสอนเรื่องข้อดี-ข้อเสียของกัญชา และพยายามชวนนักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องกัญชาในคาบเรียน กลับไม่ได้รับการสนับสนุนหรือไม่มีครูท่านอื่นร่วมด้วย เนื่องจากฝ่ายกิจการนักเรียนมองว่าการสอนเรื่องกัญชาเป็นเรื่องตลกและไม่ใส่ใจที่จะให้ความรู้ เช่นเดียวกัน แม้นักเรียนจะให้ความสนใจประเด็นนี้อย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงความรู้เรื่องกัญชาได้ เพราะขัดกับหลักโรงเรียนคุณธรรม 
相应的,部分老师也认识到了教授大麻利弊的重要性,并努力在课堂上邀请学生们谈论并交换对于大麻的看法,但没有获得支持,也没有其他老师加入。因为学生事务 部认为教授大麻有关知识是一件可笑的事,同时不关心这方面的知识,同时,就算学生对这一点感到很有兴趣,也不能够了解到有关方面的知识,因为违背了学校道德的原则。

ครูหลายท่านชี้ว่า ปัญหาสำคัญที่สุดของสถานการณ์กัญชาในโรงเรียน คือทิศทางของกระทรวงศึกษาธิการที่ไม่สอดคล้องกับทิศทางของสังคม และนโยบายกัญชาเสรีของภาครัฐ ส่งผลให้ครูทำงานลำบาก ครูเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ออกรบแต่ไร้อาวุธ ตั้งแต่ไร้สื่อการสอนเรื่องกัญชาที่เป็นกลาง ที่ชี้ให้เห็นทั้งด้านดีและด้านเสียของการใช้กัญชา ไปจนถึงวิธีการรับมือกับเด็กที่ใช้กัญชาอย่างถูกต้องและไม่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของนักเรียน
许多老师都指出,校园大麻问题的最大重 点,就是教育部对待大麻的大方向,与社会大方向及政府的大麻政策存在分歧,为他们的工作带来了很大困难。老师仿佛陷入了一场手无寸铁的战争中,从缺乏科普大麻知识的媒介,让大家能看到大麻的利弊两面,到正确对待使用大麻学生的方法,如何不损伤学生的人性尊严。

นอกจากนี้ ภาระงานอื่น ๆ จำนวนมากที่นอกเหนือจากการสอน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ครูหลายคนเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเด็กที่มีปัญหา แม้ครูรุ่นใหม่จะพยายามเข้าไปเปลี่ยนแปลง แต่แรงกระแทกจากคำสั่งกระทรวงฯ ผู้อำนวยการ เพื่อนครู หรือผู้ปกครอง ก็ส่งผลให้ครูหลายท่านยอมแพ้ไปในที่สุด 
除教育之外,还有其他许多工作要做,这也是很多老师选择对问题孩子袖手旁观的一个因素,就算新一代的老师努力尝试做出改变,但来自教育部的命令、主任、同事或家长的压力也让许多老师最终选择了放弃。

ทางออกสำหรับทุกคน
所有人的解决路径

ครูที่ร่วมวงพูดคุยสะท้อนว่า ทางออกของประเด็นกัญชาเสรีในโรงเรียนคือ สร้างการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ให้นักเรียนได้ตั้งคำถามกับการใช้กัญชา เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ และเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงเปิดโอกาสให้เกิดการสื่อสารระหว่างนักเรียน ครู และผู้บริหาร เช่นเดียวกับการผลิตสื่อการสอนที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พูดถึงข้อดี-ข้อเสียของการใช้กัญชาอย่างตรงไปตรงมา และสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ง่าย 
老师们共同反映说,校园大麻问题重点的解决方式是广开视听, 让学生们能够询问大麻相关的问题,为其提供了解大麻有关知识的机会,并使其获得正确的信息。还包括开展让学生、教师、管理人员沟通交流的机会,以及推出立场客观的教材,不偏袒任何一方,直接谈及使用的大麻的优点与缺点,同时让人们能够便捷地接触到有关信息。

ทั้งนี้ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ “รับฟังนักเรียน” จะเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในระยะยาว โดยครูที่ร่วมวงพูดคุยให้ความเห็นว่า โรงเรียนไม่มีระบบที่เข้ามารองรับและช่วยเหลือนักเรียนที่ใช้สารเสพติด เช่นเดียวกับการสื่อสารกับนักเรียนกลุ่มนี้ก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากครูกับนักเรียนใช้คนละภาษา ยิ่งไปกว่านั้น ค่านิยมของโรงเรียนก็ตัดสินว่านักเรียนที่ใช้สารเสพติดเป็นคนไม่ดี ครูก็เพ่งเล็งว่านักเรียนคนนั้น ๆ เป็นเด็กเกเร เพื่อนร่วมชั้นก็ไม่ยอมรับ ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลให้การเห็นคุณค่าในตัวเองและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นของนักเรียนคนนั้นเกิดได้ยากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น การทำงานกับความเชื่อของครูและเพื่อนร่วมชั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อทำให้นักเรียนมีคนที่สามารถไว้ใจและพูดคุยได้ ซึ่งจะทำให้นักเรียนรู้สึกปลอดภัย เกิดความเชื่อใจและไว้ใจ นำไปสู่ความรู้สึกมั่นใจ และสะท้อนการเห็นคุณค่าในตัวเองที่เพิ่มมากขึ้น 
在这方面,建立一种“倾听学生”的组织文化,将会是长期过程中最有效率的解决路径,圈内教师交流看法:学校并没有支持和帮助吸毒学生的系统,与这群学生的沟通也是一件难事,因为教师和学生使用不同的语言,更重要的是,学校的价值观会将吸毒学生定义为不好的人,老师也会将其定义为淘气的孩子,同学也不会接纳他们。这些都会让他们更难产生自我价值认同感和自我提升,因此,让他们建立起与老师和同学们之间的信任更是重中之重,这样才能让学生有信任和能够交流的人,让他们获得安全感,产生信任与放心,从而建立自信,提升自我价值。

สุดท้ายคือความรับผิดชอบของภาครัฐ ที่ต้องมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือครูในสถานศึกษาที่กำลังรับมือกับปัญหาการใช้กัญชาของนักเรียน รวมไปถึงนโยบายที่จะช่วยอุดรอยรั่วของนโยบายกัญชาเสรี เพื่อปกป้องนักเรียนจากการใช้กัญชาโดยไม่ตระหนักถึงข้อเสียของมัน เช่นเดียวกับป้องกันไม่ให้เกิดเป็นปัญหาที่จะถาโถมเข้าใส่ครูผู้สอน จนครูรู้สึกหมดพลังกับการแก้ไขปัญหารายวัน และลดทอนศรัทธาของครูที่ตั้งใจมาให้ความรู้กับนักเรียน
最后是政府的相关责任,必须设置好短期、中期、长期计划,以帮助正在着手处理校园大麻问题的教师,包括能够帮助修复大麻自由规定漏洞的种种政策,以此保护学生在不知晓其弊端的情况下使用大麻,同时也能防止教师牵涉至相关问题中,让老师觉得无力解决,因而失去向学生用心科普有关知识的信心。

看到许多中学生,乃至小学生都有吸食大麻之后出现身体不适的新闻,真的感觉很痛心,相关知识的科普与教育势在必行!
声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自Sanook,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。