熟悉泰国人的同学一定知道,有很多日常生活中平平无奇的东西,都被当成了好或者不好的征兆。就连平平无奇的糯米饭也有了这样的功能,蒸熟变红的糯米饭竟然是不详的征兆?一起来看看这到底是怎么回事吧!

ในภาคอีสานและภาคเหนือมีเรื่องเล่าขานกันมาช้านาน บ้านไหนที่มีสิ่งนี้เกิดขึ้นจะเกิดความตื่นตระหนก วุ่นวายกันทั้งบ้าน พากันวิตกจนต่างโร่กันไปทำบุญครั้งใหญ่ เพื่อจะได้สลัดความอัปมงคลออกไป หวังคืนความสงบกลับมาเช่นเคย
在泰国东北和北部地区,有一个古老的传说流传已久。每当发生这样的事件,家庭都会造成恐慌陷入混乱担忧之中,必须举办盛大的做功德活动,以希望能够消除不祥之气,恢复从前的 宁静。

ความเชื่อเมื่อนึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดงจะเกิดลางร้าย
蒸糯米饭变红是不 祥之兆

ว่ากันว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดงในบ้านใคร หมายถึงลางบอกเหตุร้ายที่กำลังเกิดขึ้น บ้านนั้นจะมีลางร้าย ดวงตก เคราะห์ร้ายมาเยือนถึงบ้าน บางทีถึงขั้นเสียชีวิต ทำให้ชาวบ้านชาวช่องต่างพากันหวาดหวั่นวิตกอยู่ไม่เป็นสุข ถึงขั้นว่า เมื่อเจอสีแดงแซมในข้าวเหนียวนิดหน่อย ต่างพากันวิตกจนเรียกหาพระเรียกหาเจ้ากันทันที
传说,当谁家蒸的糯米变成红色时,意味着不祥之事即将发生。对那个家庭来说是个坏兆头,会受到厄运的困扰,不幸会降临到那一家,甚至有时会导致死亡,使村民们陷入恐慌和不安过得不开心。因 此,一旦发现糯米中有红色斑点,村民们会立即求助于僧侣。

ตำนานเรื่องเล่าเมื่อนึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดง
蒸糯米饭变红的 传说

เรื่องเล่าขานมีอยู่ว่า มีครอบครัวหนึ่ง ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสุขดั่งวันวาน แต่แล้ววันหนึ่งความสงบสุขกำลังพรากจากไป นางเอกำลังหุงหาทำอาหาร โดยนึ่งข้าวเหนียวไว้ในหวด เมื่อข้าวเหนียวได้ที่แล้วจึงนำข้าวเหนียวออกมา ปรากฏว่าข้าวเหนียวที่ควรเป็นสีขาวนั้น กลับกลายเป็นสีแดงราวกับลางร้าย นางเอจึงใจไม่ดี รีบเรียกลูกชายมาคุยว่าช่วงนี้อย่าพึ่งออกจากบ้าน เพราะวันนี้นึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดง ซึ่งกำลังจะเกิดเคราะห์ร้าย แต่แล้วลูกชายก็ไม่ฟังคำเตือนของนางเอ แล้วหาว่านางเอเพ้อเจ้องมงาย ต่อมาลูกชายของนางเอออกจากบ้านจึงเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต จึงตอกย้ำให้นางเอเชื่อเข้าไปใหญ่ว่ามีอัปมงคลเกิดขึ้นในบ้านของนางเอจริง ๆ จนสูญเสียลูกชายไป
曾经有个传说,讲述了一个家庭和以前一样过着平常幸福的日子。然而,某一天,这平静被打破了。家中的女主人正在厨房烹饪,蒸着糯米。当她把糯米蒸好后,取出来时,却惊讶地发现原本应该是洁白的糯米变成了红色,仿佛预示着不祥。女主人感到不安,赶紧叫来儿子告诉他近期不要离开家,因为蒸出红色的糯米象征着不祥之兆。但是儿子并没有听从母亲的提醒并认为她在胡说。接着,儿子离开了家,不久后 发生了一场意外,他失去了生命。这个事件让女主人深信家中发生了不祥之兆,让她失去了儿子。

วิธีการขจัดเคราะห์ร้ายเมื่อลางร้ายมาเยือน
当不祥之兆发生 时的祛除办法

มีเรื่องบังเอิญที่หลายบ้านต่างนึ่งข้าวเหนียวแล้วเป็นสีแดงจะเกิดเคราะห์ร้ายขึ้นมา ไม่ว่าจะหนักหรือเบา ต่างหาวิธีการขจัดเคราะห์ร้าย ซึ่งวิธีการอาจแตกต่างกันไปตามพื้นที่ บ้างก็พากันไปทำบุญครั้งใหญ่ที่วัด บ้างก็ทำบุญบ้าน หรืออาจทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่าง ๆ ให้ภยันตรายหายออกจากบ้าน
在很多家庭里,蒸糯米饭后变成红色会预示着不祥之事的发生,无论其轻重。不同地区的人们会采取不同的方式来消除这种不祥气息。有些人会前往寺庙举办盛大的功德活动,有些人则会在家中举行宗教仪式,还有些人可能会进行各种驱邪仪式,以驱除家中的不祥气息。

สรุปข้าวแดงไม่ใช่ลางร้ายแต่เป็นวิทยาศาสตร์
其实米饭大米 变红不是不祥之兆而是科学现象

เดิมที ข้าวที่นึ่งออกมาเป็นสีแดง ในที่นี้ไม่ใช่สีแดงที่เกิดจากพันธุ์ข้าว ในทางวิทยาศาสตร์ เกิดจากราแดงที่แฝงอยู่ในบางเมล็ดข้าว เมื่อนึ่งออกมาแล้วจึงเกิดเป็นสีส้ม ๆ แดง ๆ ส่วนเรื่องที่ว่า ถ้าหุงข้าวแล้วเป็นสีแดง จะเป็นลางร้าย จะโชคร้าย อันนั้นเป็นความเชื่อล้วน ๆ ในบางท้องถิ่น เพราะบางพื้นที่ ก็บอกว่าเป็นลางดี แต่ใครจะรู้กันล่ะ? ความเชื่อนี้อาจเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องบังเอิญ ก็เป็นเรื่องที่สุดหาจะรู้ไม่ แต่ถึงอย่างไรเรื่องราวเหล่านี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งไม่มีถูกหรือผิด ควรใช้วิจารณญาณ ในการอ่านด้วยนะ
首先当煮熟的米饭呈现出红色时,并不意味着这个品种的米会变红,而是由于部分米粒中潜藏的红曲霉,蒸了后米饭就呈现出橙红色。至于说如果米饭煮出红色,就会带来不祥之事,这纯属一种信仰,而在某些地方甚至有人相信这意味着好兆头,谁又知道是好是坏呢。这样的信仰可能是真实的,也可能是巧合,无法考证。但无论如何,这些故事都是个人信仰,没有对错之分,应该以理性来看待。

无论如何,大家如果发现家中的大米变红,一定要全部扔掉,因为这表明已经变质。
除此之外,还有这些个坊间流传,也都在泰国成为了日常的“指引”,或许没有依据,但是也从侧面体现了泰国人的文化生活。

1. ห้ามตัดผมวันพุธ
不要在周三剪头发

2. ชิ้นสุดท้ายแฟนหล่อ
吃盘子里最后一样东西的人会找到一个帅气男盆友

3. จิ้งจกทัก ห้ามออกจากบ้าน
见到壁虎就千万别出门。
(出门之前见到壁虎,是一种前兆,预示着会发生不好的事情,所以,“壁虎”是提醒你不要出门了。)

4. ฝันว่างูรัดจะเจอเนื้อคู่
做梦梦到蛇缠身表示你即将遇到灵魂伴侣

5. เขม่นตา ขวาร้าย ซ้ายดี
左眼跳有好事右眼有灾难

6. ห้ามร้องเพลงขณะกินข้าว
别在吃饭的时候唱歌,否则会嫁给老男人。
(实际上,这句话是用来提醒过去那些在厨房做饭的女子,让她们在做饭的时候要集中注意力,否则很容易把饭烧糊或者用菜刀切到手。最后说“会嫁给老男人”,是因为过去的女子非常害怕嫁给老男人。)

7. บีบแตรผ่านหน้าศาลหรือโค้งร้อยศพ
开车经过神庙或者发生过事故的弯道时,司机要按喇叭(以示尊敬)。
(事实上,这个说法是为了提醒司机开车经过危险的弯道时要保持警惕。)

8. ถ้าจามแปลว่ามีคนคิดถึง
如果打喷嚏,表示有人在想你。

看来咱们民间的信仰还是挺相似的呢!

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自sanook,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。