俗话说得好“祸从口出”,虽然小伙伴们可能都听说过“学习一门外语最快的方式是从骂人学起”,但是有些粗话可是不能乱说的哦,不然不仅伤了他人,自己可能也要自损八百哦~

 

 

ถึงแม้เราจะมีสิทธิเสรีในการพูด แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถใช้คำพูดของเราไปทำร้ายคนอื่นได้ อย่างเช่นคำด่าที่หยาบคาย ที่มีความหมายหมิ่นประมาทผู้อื่น ที่เมื่อพูดออกไปแล้วอาจจะทำให้เราต้องมีคดีความติดตัวก็ได้

虽然我们有自由说话的权利,但这并不表示我们可以用言语去伤害他人。比如带有蔑视侮辱性质的不雅词汇,如果乱用可能会吃上官司也说不定。

 

วันนี้ เราก็จะพาเพื่อนๆ มาทำความเข้าใจกับ คำด่า ที่มีความผิดตามฎีกา หลุดพูดออกไประวังต้องเสียเวลาไปโรงพัก มาให้เพื่อนๆ ได้ศึกษากัน

今天我们就来带小伙伴们了解一下一些不雅词汇,一时嘴快可是容易获得一副“白金手镯”的哦~

 

"มารศาสนา"Marasadsana

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3226/2525 คำว่า "มารศาสนา" ตามความหมายในพจนานุกรม หมายถึงบุคคลผู้มีใจบาปหยาบช้า คอยกีดกันไม่ให้ผู้อื่นทำบุญและกีดกันบุญกุศลที่จะมาถึงตน ซึ่งเป็นบุคคลประเภทที่สาธารณชนย่อมรังเกียจที่จะคบหาสมาคมด้วย จำเลยพูดว่าผู้เสียหายด้วยถ้อยคำดังกล่าวต่อหน้าผู้เสียหาย จึงต้องมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 โดยโจทก์ไม่ต้องนำสืบอธิบายความหมายอีก เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันอยู่ทั่วไป

最高法院3226/2525号裁判文书, “Marasadsana”在字典里的解释为:有意阻止他人做功德或阻挠他人获得功德的卑劣者,是被公众所不愿与之交往的一类人。被告当着受害人的面说出上述词汇,则必定怀有蔑视侮辱他人之意,触犯了刑法第393条,原告不必再针对该词汇进行解释,这是众所周知的侮辱词汇。

 

"พระหน้าผี" "พระหน้าเปรต" “Phranaphi” “Phranapret”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10/2527 จำเลยว่าโจทก์ว่า "พระหน้าผี พระหน้าเปรต ไปฟ้องกู กูไม่กลัว" โจทก์เป็นพระภิกษุซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนทั่วไปถือว่าควรเคารพ การที่จำเลยว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำดังกล่าว จึงเป็นการดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393

最高法院10/2527号裁判文书,被告说原告为“你这Phranaphi,Phranapret,去告老子吧,老子不怕”,原告是受公众所尊敬的僧人,被告当着原告的面使用上述词汇,触犯了刑法第393条视侮辱罪。

 

"ผู้หญิงต่ำ"“贱人”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2256/2537 จำเลยว่าผู้เสียหายที่ 1 ว่าเป็น ผู้หญิงต่ำ ๆ ต่อหน้าผู้อื่นซึ่งเป็นคำพูดที่เหยียดหยามผู้เสียหายที่ 1 ว่า เป็นผู้หญิงไม่ดี มีศักดิ์ศรีต่ำกว่าผู้หญิงทั่วไป เป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายที่ 1ซึ่งหน้า หาใช่เป็นคำพูดในเชิงปรารภปรับทุกข์ไม่ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393

最高法院第2256/2537号裁判文书,被告当着其他人的面说受害人是“贱人”,这是对受害人的蔑视,有意贬低受害人,侵犯其尊严,这不是向他人诉苦的用语,被告触犯了刑法第393条。

 

"อีเหี้ย" "อีสัตว์" "อีควาย"“混蛋”“畜生”“蠢货”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5257/2548 จำเลยด่าว่าผู้เสียหายว่า อีเหี้ย อีสัตว์ อีควาย มึงคิดว่าเมียกู กินเงินไปหรือไง และชี้มือไปที่ผู้เสียหาย ถ้อยคำดังกล่าวนอกจากจะเป็นคำหยาบคายแล้ว ยังมีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบผู้เสียหายเป็นสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สี่เท้า และกล่าวหาผู้เสียหายว่า ภรรยาของจำเลยเอาเงินของกลุ่มแม่บ้านไปใช้เป็นการส่วนตัว ถ้อยคำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการดูหมิ่นผู้เสียหาย

最高法院第5257/2548号裁判文书,被告指着受害人骂道“混蛋,畜生,蠢货,你以为我老婆私吞了钱吗”。上述词汇除了是不雅词汇,还将受害人比作爬行动物、四脚动物,还控告受害人说:被告的妻子将佣人阿姨的钱挪为己用是私事。这样的言语有蔑视侮辱受害人之意。

 

"เฮงซวย"“蹩脚”、“差劲”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2551 การดูหมิ่นผู้อื่นอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 หมายถึงการดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท หรือทำให้อับอาย การวินิจฉัยว่าการกล่าววาจาอย่างไรเป็นการดูหมิ่นผู้อื่นหรือไม่จึงต้องพิจารณาว่าถ้อยคำที่กล่าวเป็นการดูถูกเหยียดหยามสบประมาทผู้ที่ถูกกล่าวถึง หรือเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวถึงอับอายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นการดูหมิ่นแล้ว ไม่ต้องถึงกับเป็นการใส่ความให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ซึ่งเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามมาตรา 326

最高法院1623/2551号裁判文书,根据刑法第393条蔑视、侮辱或者使他人感到难堪的行为是犯法的。判决认为如何判断他人的言辞是否构成蔑视他人的行为,需要考虑到其言辞是否是蔑视、侮辱所提到的人,或者使所提到的人感到难堪。只要出现上述行为,不一定要达到致使他人名誉受损、被他人蔑视或憎恶的程度,都可将其视为蔑视侮辱行为,根据第326条将构成蔑视罪。

 

ตามพจนานุกรมให้ความหมายคำว่า "เฮงซวย" ว่า เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ คุณภาพต่ำ ไม่ดี ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่จำเลยพูดใส่ผู้เสียหายด้วยความไม่พอใจว่า "ไอ้ทนายเฮงซวย" จึงเป็นถ้อยคำที่จำเลยด่าผู้เสียหายเป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทผู้เสียหายว่าเป็นทนายความเฮงซวย เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 393

字典里对“เฮงซวย”的解释为指没办法确定的,低质量的,不好的,是一个负面的词汇。被告不满的对受害人说“你这个蹩脚的律师”,这是蔑视和辱骂该律师的词汇,是指责该律师是一个不好的律师,触犯了刑法第393条。

 

"อีดอก"“贱货”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521 จำเลยถ่มน้ำลายไปทางผู้เสียหายและด่าผู้เสียหายว่า พวกอีดอกดำ คำว่าอีดอก เป็นถ้อยคำหยาบคาย สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าผู้ถูกด่า เป็นหญิงไม่ดี จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

最高法院2102/2521号裁判文书,被告朝受害人吐口水并骂道“你这个贱货”,อีดอก是不文雅词汇,普通人听了都会理所当然的认为被骂的人不是个好女人,因此被告触犯了侮辱罪。

 

"อีร้อยคxย" - "อีดอกทอง"“妓女”-“臭婊子”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2495 ด่าเขาว่า "อีร้อยคxย อีดอกทอง" เป็นคำด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 339(2)

最高法院1442/2495号裁判文书,用“妓女”、“臭婊子”等不雅词汇进行辱骂,根据刑法第339(2)条,触犯了侮辱罪。

 

"ไอ้หน้าโง่"“蠢货”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7572/2542 การที่จำเลยกล่าวถ้อยคำต่อโจทก์ร่วมว่า "มึงเข้าไปในที่ของกูได้อย่างไร กูจะแจ้งข้อหาบุกรุกมึง มึงเป็นผู้ใหญ่บ้านได้อย่างไร ไม่รู้กฎหมาย ไม่รู้หน้าที่ ไอ้หน้าโง่มึงต้องเจอกับกูแน่ที่ศาล" นั้น เห็นได้ว่าสรรพนามที่จำเลยใช้แทนตัวจำเลยและโจทก์ร่วมว่ากูและมึงนั้นเป็นเพียงถ้อยคำไม่สุภาพ ส่วนถ้อยคำในทำนองว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่มีอำนาจหน้าที่ ไม่รู้กฎหมายและจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับโจทก์ร่วมนั้นเป็นเพียงถ้อยคำต่อว่าโจทก์ร่วมที่เข้าไปในที่ดินของ ม. พ่อตาจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาต และแสดงเจตนาที่จะดำเนินคดีกับโจทก์ร่วมเท่านั้น ไม่ใช่ถ้อยคำที่ดูถูกเหยียดหยามโจทก์ร่วม แต่ที่จำเลยว่าโจทก์ร่วมว่าไอ้หน้าโง่นั้น ถ้อยคำดังกล่าวแสดงอยู่ในตัวถึงการหมิ่นเหยียดหยามโจทก์ร่วม แม้จะเป็นการกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นโจทก์ร่วมในขณะที่จำเลยและโจทก์ร่วมทะเลาะกันก็ต้องถือว่าจำเลยกล่าวโดยมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ร่วม หาใช่ว่าการกล่าวในขณะทะเลาะกันจะถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาดูหมิ่นอันจักเป็นการขาดองค์ประกอบความผิดไม่

最高法院7572/2542号裁判文书,被告对原告说“你凭什么进老子的地方,老子要告你私闯民宅,你是怎么当村长的,不懂法律,不明白自己的责任,你这蠢货我们法庭见”。从上述对话可以看到被告用来指代自己和原告的人称代词只是不文雅词汇,至于所说的村长没有权利责任、不懂法律,要状告原告等词汇只是指责原告没有经过其岳父的允许就擅自进入他的地方,表明自己要告原告的意图而已,不是蔑视侮辱原告的词汇,但被告对原告所说的“蠢货”一词,即便当时双方正处于争吵之中,但该词汇仍可视为被告有意侮辱原告,不能因为当时双方正处于争吵之中而认为被告并非有意侮辱原告。

 

"ไอ้ระยำ" "ไอ้เบื้อก" "ไอ้ตัวแสบ"“混蛋”“ 蠢蛋”“惹事精”

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2538 หลังจากประธานที่ประชุมกล่าวเปิดประชุมแล้วจำเลยได้พูดในที่ประชุมซึ่งมีโจทก์และบุคคลอื่นรวมแล้วประมาณ 30 คน เข้าร่วมประชุมว่า "ผมข้องใจว่าไอ้ผู้อำนวยการกองอุทธรณ์มันมานั่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการ อ.ก.พ.นี้ได้อย่างไรผมไม่เคยเสนอชื่อมัน" เมื่อประธานในที่ประชุมได้ชี้แจงให้ทราบแล้ว จำเลยได้พูดขึ้นอีกว่า "ไอ้ระยำ มันไปล็อบบี้มาเพื่อจะมาเป็นผู้ช่วยเลขานุการเพื่อเอาเบี้ยประชุมไปกินเปล่า ๆ" และจำเลยยังพูดอีกว่า "ไอ้เบื๊อก ไอ้ตัวแสบ มันแส่เข้ามานั่งหาอาวุธด้ามยาวอะไรในที่นี้" เพราะไม่พอใจโจทก์ แม้จำเลยจะชี้หรือไม่ชี้หน้าโจทก์ก็ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญ เมื่อผู้อำนวยการกองอุทธรณ์และร้องทุกข์มีเพียงตำแหน่งเดียวคือโจทก์จำเลยย่อมมีความผิดฐานดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ตาม ป.อ.มาตรา 393 และฐานกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายต่อหน้าธารกำนัล ตาม ป.อ. มาตรา 397

最高法院1631/2538号裁判文书,在会议主席宣布包含被告与原告以及其他人在内共计30人的会议开始之后,被告说“我并没有举荐信访局主任,很疑惑他是怎么坐上府农业和合作社发展附属委员会办公室秘书助理这个位置的”,当会议主席作出解释后,被告继续说道“混蛋,他贿赂他人以便坐上秘书助理这个位置不过是为了贪污会议经费”。被告还说: “蠢蛋、惹事精,还想混入这里捞取什么好处吗”。因为不满原告,不管被告指不指着原告的脸都不是主要内容了,当信访局主任和申诉者都处在原告的位置,根据刑法第393条和第397条,被告触犯了侮辱罪和构成当众使他人难堪的行为。

 

"อีตอแหล"“谎话精”

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8919/2552 ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวต่อผู้เสียหายว่า "อีตอแหล มาดูผลงานของแก" เป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่า การดูหมิ่นผู้อื่น หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท หรือทำให้อับอาย การวินิจฉัยว่าการกล่าววาจาอย่างไรเป็นการดูหมิ่นผู้อื่นหรือไม่ จึงต้องพิจารณาว่า ถ้อยคำที่กล่าวเป็นการดูถูกเหยียดหยามสบประมาทผู้ที่ถูกกล่าวหรือเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวอับอายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นการดูหมิ่นแล้ว เมื่อตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายคำว่า "ตอแหล" ว่า เป็นคำด่าคนที่พูดเท็จ ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่จำเลยกล่าวถ้อยคำดังกล่าวต่อผู้เสียหายจึงเป็นการพูดด่าผู้เสียหาย เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทผู้เสียหายว่าเป็นคนพูดเท็จ จึงเป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ปรับ 200 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 (ยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับ) มาตรา 30 ( กักขังแทนค่าปรับ)

最高法院8919/2552号裁判文书,被告对受害者说“谎话精,来看看你的作品”是否构成了对受害者的侮辱,根据“蔑视侮辱”的含义“指蔑视、侮辱或致使他人感到难堪”,判决认为需要考虑到所说的言辞是否构成了对所提到之人的蔑视、侮辱或使其难堪蒙羞,如果是则认为构成了侮辱行为。皇家学术院字典对“ตอแหล”一词的解释为“骂说话的人的词”,是一个负面的词汇。因此被告说原告为“谎话精”被认为是对其的辱骂,蔑视侮辱原告为说谎的人,触犯了刑法第393条。法院宣判被告的上诉不成立,依据法院审判罚款200泰铢,如果不予缴纳则依据刑法第29条没收资产进行缴纳或第30条以监押代替罚款。

 

语言是一把双刃剑,希望小伙伴们看完了以后能引以为戒,不要随意对他人使用粗话,毕竟“恶语一句六月寒”,不仅伤害了别人,自己也可能会被伤害到哦~

 

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自sanook,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。