绝症、车祸、失忆曾经被奉为韩剧的三大金准则,只要遵循这三大原则,就能让剧情跌宕起伏抓马不断。那泰国的狗血电视剧呢?它们有没有什么吸引观众的黄金准则呢?其实还真的有,今天我们就来看看,泰国狗血电视剧中的十大黄金准则,看看哪部剧最符合!

“ละครน้ำเน่า” อาจเป็นคำนิยามที่เหมารวมผลผลิตอย่างหนึ่งในโลกบันเทิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากคนทุกกลุ่ม ในบริบทด้านระยะเวลา วลีนี้อาจไม่สะท้อนลักษณะของละครในยุคหลังได้แล้ว ดังเห็นได้ว่า ผลงานถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า ในยุคหนึ่งคำนี้ถูกใช้อธิบายละครทีวีไปเสียได้
“狗血剧”(泰语称为“臭水剧”)是一种娱乐产品的统称,它在某个时间段内深受各个群体的喜爱,这个短语已经不能反映后来的一些电视剧作品的特点了,可以看到,影视作品不断 发展,但是也不得不承认,这个词可以代替某个时代的电视剧作品。

“น้ำเน่าก็คือน้ำที่หยุดนิ่ง หยุดนานเข้าก็ไม่ยอมไหลไปไหน ชาชินกับความสงบปลอดภัย ยินดีกับความจำเจซ้ำซาก เป็นน้ำที่ไม่ยอมผจญภัย ไม่แสวงหา ไม่รู้สึกรู้สากับโลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลง นานเข้า ‘น้ำ’ ก็ไม่เป็นน้ำอีกต่อไป แม้เมื่อ ‘เน่า’ ก็ยังเข้าใจว่าตนยังเป็นน้ำ ทั้งที่กลายเป็นโคลนตมไปแล้ว…”
“臭水是死水,长期停滞不能流动,沉迷于安逸寂静,喜欢不停重复,不愿意冒险,不再追寻,对变化的外部世界毫无反应,时间久了水就不再是水,即使是臭了也还觉得自己 是水,但实际上早就变成了烂泥了…”

เมื่อคำนี้ถือกำเนิดแล้ว น่าคิดว่าหากจะนิยามผลงานเรื่องหนึ่งว่าเป็น “ละครน้ำเน่า” ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ในประเด็นนี้ สุรพงษ์ พินิจค้า ได้เขียนบทความลงนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 21 ฉบับที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2543 เรื่อง “บัญญัติสิบละครน้ำเน่า”
当这个词产 生之后,如果一部电视剧要被称为“狗血剧”,那它应当有什么元素呢?关于这个,Surapong Pinijkar在《文化艺术》杂志2000年10月12版中写了一篇《狗血剧十大原则》的文章。

รายละเอียดโดยคร่าวของแต่ละประการมีดังนี้
各条原 则的详细内容如下:

บังเอิญพบกัน
偶然 遇到

“ความบังเอิญ” เป็นสิ่งที่สามารถหยิบมานำเสนอได้ แต่ควรจะเสนออย่างมีสติ ไม่ดูถูกสติปัญญาคนดู นำเสนอไปตามปกติวิสัยของความบังเอิญ ที่อาจจะหรือน่าจะเกิดขึ้นได้ในบางสถานการณ์ ไม่ใช่ใช้เป็นทางออกในการเล่าเรื่องอย่างมักง่ายและไร้สติปัญญา
偶遇是可以使用的 桥段,但是必须得有脑子,而不是去侮辱观众的智商,偶遇可能会在某些场合和情况下发生,而不是把它当作一种毫无智商的简单叙事方法。

หนึ่งเด้ง…ตัวอิจฉามากินข้าวในร้านอาหาร บังเอิญมาเจอพระเอกกับนางเอกในร้านเดียวกัน ทั้งที่อยู่กันคนละเขต กทม. อย่างนี้เขาเรียกว่าหนึ่งเด้ง… บางทีก็พบกันที่ศูนย์การค้าเดียวกัน วันเดียวกัน ร้านเดียวกัน เวลาเดียวกัน ตามแต่อัธยาศัยของความบังเอิญ! สองเด้ง…ขับรถมาเจอกันตรงไฟแดงพอดี นอกจากมาที่ไฟแดงเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน ยังทะลึ่งมาจอดข้าง ๆ กัน และเปิดกระจกให้เห็นกันอีก สามเด้ง…นางเอกถูกฉุดเข้าโรงแรมม่านรูด ‘บังเอิญ มีคนรู้จักก็เข้ามาใช้บริการโรงแรมเดียวกัน เวลาเดียวกัน และยังมาใช้บริการห้องข้าง ๆ ติดกันอีก ทำให้นางเอกถูกช่วยเหลือไว้ได้ จึงเกิดต่อสู้กัน ระหว่างนั้นนางเอกก็วิ่งหนีออกมาหน้าโรงแรม ก็คือ ‘บังเอิญ’ วิ่งมาพบกับพระเอกซึ่งขับรถผ่านมาตรงนั้นพอดี
第一波,爱嫉妒的女二来餐厅吃饭,刚好遇到男主和女主在同一家餐厅,尽管他们住在曼谷不同的区,有时候在同一家购物中心遇到,同一天、同一家店、同一时间,按照偶遇的套路。第二波,开车刚好在红绿灯处遇到,除了在同一个红绿灯之外,还在同一时间,而且还刚好停在一起,一打开窗户就看到了。第三波,女主被带到酒店钟点房,“刚好”有认识的人 在同一天住在这家酒店,而且刚好还住在隔壁的房间,使得女主被成功救下,发生打斗,在这期间女主刚好逃出酒店,又“刚好”地碰到到刚好开车经过该酒店的男主。

 

ช่างฝันคิดในใจ
内心容 易臆想

อันนี้ถือเป็นธรรมเนียมละครโทรทัศน์ ต้องมีคิดในใจ ก็ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกัน พระเอกคิดในใจออกมาดัง ๆ ตัดภาพไปที่นางเอกก็กำลังคิดในใจเหมือนกัน ตัดภาพไปอีก ตัวอิจฉาก็กำลังคิดในใจ ขอให้สังเกต ถ้าตัวละครเดิน ๆ อยู่ หยุดเดินเมื่อไหร่ เสียงคิดในใจจะออกมาทันที อีกหน่อยก็คิดในใจคุยกันซะเลย
这是电视剧的套路,必须要不停臆想,也不知道为什么会这样,男主思考得很大声,画面切到女主的时候也在思考,画面再切到坏女二的时候她竟然也在思考,好好观察下, 如果角色正在行走,突然停下来了,内心思考的声音就会紧跟着出来,一会是不是还要在心里聊天?

 

คนใช้คุยกัน
 人聊天

นี่เป็นการเล่าเรื่องแบบ Pattern ที่เจริญรอยตามกันมา บทบาทคนใช้หรือ ‘อีแจ๋ว’ มีไว้สำหรับใช้ในกรณี ‘คนเขียนบท’ ไม่รู้จะเล่าเรื่องยังไง ก็ใช้วิธีที่เรียกว่า ‘คนใช้คุยกัน’ ถือเป็นบุคคลที่สาม ที่บอกคนดูว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นคนเลว ใครกำลังคิดอะไร กับใคร อย่างไร ถ้าเห็นฉากในครัว เห็นคนใช้กำลังวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายก็ให้ตั้งใจฟัง
这是用得非常多的 套路,佣人的作用就是在编剧不知道应该怎么叙述的时候,就让佣人们过来聊天,他们作为局外的第三人,来说明谁是好人谁是坏人,谁正在想什么,和谁,怎么样。如果看到了佣人们正在厨房里对主人家评头论足的话,要认真听!

 

คู่ขวัญแม่ลูก
母女 “情深”

นี่คือ Stock Character ตัวละครก็คือ ‘แม่’ ที่ให้ท้าย ‘ลูกสาว’ ให้ไปตามจีบพระเอก เพื่อหวังมรดก อะไรทำนองนี้ ตัวละคร ‘แม่ลูกคู่ขวัญ’ นับเป็นน้ำเน่านิ่งอีกแบบที่ยังเห็นกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงออกของตัวละครก็ถอดแบบกันเป็นมาตรฐานที่เหมือนกันทุกเรื่อง ต่างกันที่ใครจะมารับบทเท่านั้น เหมือนมีท่ารำ ท่าเต้นกำหนดไว้ โดยไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ใดอีกต่อไป
这是固定的角色,为了 财产让女儿去追求男主这种形式也还是存在的,尤其是不管是哪部剧演出来的都是一个样子,只不过是不同的演员来演,就好像是规定好的舞蹈动作一样,完全不用任何多余的创意。

 

ถูกแอบฟังแต่มองไม่เห็น
被偷听但是 看不到

สูตรนี้อันที่จริงก็ไม่หนักหนานัก เพียงแต่มันน่ารำคาญ บทบาทการแอบฟังมีให้เห็นเสมอ ๆ ในละครพวกนี้ แต่บางครั้งดูไปก็เหมือนลิเกไม่มีผิด บางทีคนแอบฟังยืนหัวโด่อยู่ตำตา แต่ไอ้คนถูกแอบกลับมองไม่เห็น เล่าความลับจนหมดเปลือก
这个套路其实没有多严重,只是有些讨厌,这类剧中偷听的桥段经常发生,但有的时候就像是梨伽戏里的偷听一样,偷听的人都把头伸到眼前了,但是被偷听的人反倒看不见,把秘密全 说出来了。

 

คิดไม่เป็นจึงพูดคนเดียว
不会思考只能 喃喃自语

ไอ้เรื่องคิดในใจยังพอรับกันได้ แต่ไอ้เรื่องให้ตัวละครยืนพูดนั่งพูดอยู่คนเดียวเป็นตุเป็นตะนี่ซิ ยิ่งกว่านั้นเมื่อลองจับใจความในสิ่งที่พูดคนเดียวออกมานั้น มันมีความจำเป็นใดหรือไม่ บางครั้งก็แทบไม่มีอะไรเป็นสาระ เพียงแต่ย้ำความรู้สึกของตัวละคร ซึ่งหลายต่อหลายครั้งก็ไม่เห็นความจำเป็นใดใด วิธีการดังกล่าว ในลิเก หรือแม้ในละครของโลกที่เป็นแบบแผนมาตั้งแต่โบราณ เขาใช้กันมาก่อน เรียกว่า ‘โซลิลโลควี’ (Soliloquy) เรียกให้ง่าย ๆ ก็คือ ‘ป้องปากพูดกับคนดู’
在心里不断思考的还勉强能接受,但是站那坐那自言自语绝对不能理解,当去看他们在说的内容的时候,看看是不是有什么必要,但有时候真的是毫无意义,就是在不停强调角色的感受, 其实很多次都没必要那样做。这种形式在梨伽戏中用到叫做“Soliloquy说得简单点就是“独白”。

 

ชอบกราดเกรี้ยวเอาตอนกินข้าว
吃饭的时候 总爱大发火

กล่าวกันว่าฉากบังคับของละครโทรทัศน์คือ ‘ฉากกินข้าว’ ผู้กำกับละครจะเชี่ยวชาญฉากนี้มาก นอกจาก Blocking ตัวละครง่ายแล้ว ยังประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งความคิด ข้อสังเกต คือ กินข้าวพร้อมหน้ากันทีไร เป็นต้องมีการกระแหนะกระแหนกันของคู่กรณีไปซะทุกที บางครั้งไม่เป็นอันกิน ทะเลาะเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยันกันตลอดมื้อค่ำ
这些电视剧必 须要出现的场景就是吃饭,导演们很擅长拍这样的场景,除了能够很好的划分角色,而且还能节省时间、节省脑力,需要注意的是,每次吃饭的时候必须要开撕,一整顿饭期间都充斥着讥笑、瞧不起和贬低。

 

โอ้…พระเจ้า! ปลอมตัวแต่จำไม่ได้
哦,天呐!乔装 打扮但是认不出来

อันนี้ไม่ขอพูดมาก เชื่อเหอะ โผล่มาเรื่อย ๆ แหละ คอยดู ไอ้ชนิดนางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชาย แต่มนุษย์รอบข้างไม่มีใครรู้เลยสักคน ที่ไม่พูดมากก็เพราะเค้าเมาท์กันทั้งเมือง มีพวกเดียวที่ไม่รู้ตัวก็คือพวกทำละครกับคนเขียนบท
个就不多说了,相信我,一直在不断的出现,等着看吧,女主角乔装成男人,但是周围的人全然不知,全城的人都在议论,只有一部分人看不出来,那就是制作团队和编剧。

 

นางวายร้ายชอบใช้เสียงแหลม
坏女二声音 非常尖细

นี่ก็ Shock Character ที่งมงายกันเป็นแบบแผนเสียแล้ว ถึงกับการคัดเลือกตัวนางมารร้ายมีการทดสอบเสียงกรี๊ดกันเลยทีเดียว นักแสดงคนใดที่ขาดคุณสมบัติเสียงหวีดแหลม เป็นอันต้องจบชีวิตการการแสดงในบทที่ว่าไปเลย บทบาทอันลึกซึ้งนี้จะพบกันในฉากนางมารร้ายมาพบปะทะคารมกับนางเอก ด่ากันด้วยโวหารยอกย้อนส่อความนัย จนที่สุดนางเอกก็เถียงชนะแล้วเดินจากไป นางมารร้ายเถียงไม่ออก เริ่มมีอาการตัวสั่นแล้วตามมาด้วยเสียงหวีดร้อง แบบที่ว่าเป็นที่ภูมิอกภูมิใจของทีมงานละครที่สามารถสร้างสรรค์ฉากนี้ขึ้นมาได้
这也是固定角 色,已经成为必选项了,估计选择女二的时候都会专门测试尖叫声,哪个女演员没有这种像哨子一样尖细的声音一定演不了女二。这个重要角色会出现在和女主遇到,吵来吵去最后女主获胜离开,女二吵不赢就开始浑身颤抖发出尖叫,制作团队能够有这样的创作实属不易。

 

และของแถมที่ขาดไม่ได้…นางเอกท้องต้องอ้วก!
最不能缺 少的附赠品…女主怀孕必须呕吐

เราเชื่อว่าผู้หญิงในโลกนี้ไม่ว่าชาติใด เวลาท้องก็ท้องเหมือนกันหมด อาการแพ้ท้องก็ย่อมจะคล้าย ๆ กัน มีอาการอ้วกเป็นพื้นฐาน แต่เวลาดูหนังฝรั่งหรือหนังอื่นใด เวลาจะเล่าเรื่องว่านางเอกไปทำงามหน้าท้องมาแล้วนะ ไม่เห็นเขาจะต้องอ้วกให้ดู แต่ถ้าเป็นการเล่าเรื่องแบบเป็นนิสัยของคนเขียนบท คนทำละครมักสรุปเอาเองว่า ต้องอ้วกเท่านั้น คนจึงจะเข้าใจ และยึดเป็นมาตรฐานอันถูกต้อง กะอีแค่จะบอกว่านางเอกท้องแล้วนะ มีวิธีการที่แยบยลมากมายที่จะเล่าเรื่อง แต่ก็ยังเชื่อในสูตรสำเร็จที่ใช้กันมาไม่ต่ำกว่าห้าสิบปี ถึงกับมีการว่ากันว่า นางเอกละครไทยต้องอ้วกเป็นทุกคน
我们相信, 这个世界上的女性,不管来自哪个国家,怀孕都是一样的,妊娠反应也都是很类似的,最基本的就是孕吐,但是看老外的影视剧就发现他们的女主好像不一定要吐,如果是按照编剧的风格来写,孕妇就必须要吐,人们才能知道她是怀孕了,即使有一百种方法,但仍然在用这个用了五十多年的套路,泰国的女主角必须要呕吐!

คุณผู้อ่านก็พิจารณากันเองเถิดว่าละครไทยนั้นยังน้ำเน่าอยู่หรือไม่ หรือเป็นน้ำสะอาดใสเหมือนไหลมาจากน้ำตก หรืออาจเป็นโคลนตมไปแล้วอย่างที่ สุรพงษ์ พินิจเค้า กล่าวไว้จริง ๆ ?
读者们可以自己评价泰国的电视剧到底狗血不狗血,或者它们是脱离了狗血剧的清流,又或者是像上面这位作者讲的一样已经成了烂泥。

 

你最先想到哪部泰剧了呢?还有哪些你觉得狗血的剧情,说出来一起开心一下啦!

 

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。