最近,泰国的空气污染问题有些严重,许多泰国人民都深受其害,有些人甚至因为PM2.5得了呼吸道系统的疾病。那么泰国的这些空气中的有毒物质究竟是从哪里来的?今天咱们就来一探究竟。

文章带读:
(音频-可在沪江泰语公众号上收听)
朗读:(泰)ฟ้าใส

วิกฤติฝุ่น PM2.5 ได้วนเวียนมาหาเราทุกปี และก่อให้เกิดปัญหาโรคทางเดินหายใจกับคนจำนวนมาก นอกจากนี้ หลายคนยังเชื่ออีกว่า มันคือการ “ตายแบบผ่อนส่ง” ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 เหล่านี้ ก็มาจากการเผาในภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจอย่างข้าวโพดและอ้อย
PM2.5的粉尘危机每年都会席卷重来,并且会造成很多人的呼吸道系统疾病。此外,一些人也相信,这是一种“分期付款式死亡”,其中一个主要原因就是这些PM2.5粉尘是来自农业焚烧的,尤其是来自对于经济作物玉米和甘蔗的焚烧。

อย่างข้าวโพดนั้น นอกจากเป็นอาหารของคนแล้ว ส่วนต่าง ๆ ของข้าวโพด ยังถูกนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ให้กับไก่หรือหมู ส่วนอ้อยนั้น นำไปผลิตเป็นน้ำตาล ซึ่งประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกน้ำตาล อันดับ 2 ของโลก แล้วปัญหาของเรื่องนี้ เป็นอย่างไร ? ทำไมถึงมีการเผาในภาคเกษตรกรรมเกิดขึ้น เราจะเล่าให้ฟัง
玉米,除了被人们做成食物之外,其他部分也会被喂给一些动物比如鸡或者猪吃。而甘蔗会被用去制糖,泰国也是全世界第二大糖类出口商。那么这个问题到底是如何产生的?为什么农业需要焚烧这些植物?我们将说给大家听。

ต้องเล่าอย่างนี้ว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 นั้น ไม่ได้มาจากการเผาในภาคเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสาเหตุอีกหลายอย่างคือ การเผาไหม้จากโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงมลพิษจากการใช้รถยนต์และยานพาหนะอื่น ๆ
要说的是,PM2.5的粉尘问题并不只是来自农业方面的焚烧,还有其他许多原因,比如来自工厂焚烧,还有因使用车辆和其他交通工具产生的有毒物质。

แต่การเผาจากภาคเกษตรกรรมนั้น ก็เป็นสาเหตุที่สำคัญ และคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 30% ถึง 40% เลยทีเดียว ซึ่งก็เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญของปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่าง “อ้อย” ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่การปลูกอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านไร่ จะมีฤดูเก็บเกี่ยวที่จำกัด คือประมาณ 4 เดือน เพื่อนำส่งโรงงานหีบอ้อย
但农业方面的焚烧仍然是十分重要的原因,占到了30%-40%的比例,可以说是PM2.5粉尘问题的重要源头了。甘蔗现在在全国已经有了一千万莱的种植面积,收获季节也是有时间限制的,大概只有四个月,然后回就被送到工厂去进行包装。

แต่ปัญหาของเรื่องนี้ก็คือ การเก็บเกี่ยวอ้อยส่วนใหญ่นั้นต้องใช้แรงงานคน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าแรง ที่ถือเป็นต้นทุนที่สูงสำหรับเกษตรกรไร่อ้อย พอเป็นแบบนี้ เกษตรกรหลายคนจึงเลือกที่จะเผาอ้อยแทน เพื่อลดจำนวนแรงงานในการเก็บเกี่ยว และทำให้เก็บเกี่ยวส่งโรงงานได้เร็วขึ้น ส่วนการใช้เครื่องจักรอย่างรถตัดอ้อยนั้น มีต้นทุนที่สูงกว่ามาก และใช้ได้แค่ในเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น
但这件事的问题在于大部分收割甘蔗的工作都需要大量人工,也就需要支付人工费,对于种植甘蔗的农民来说是一个很大的成本。这样一来,许多农民就选择用焚烧来代替收割,以减少收割时的人工成本,更快地将甘蔗送往工厂。还有用于收割甘蔗的收割机成本就更高了,而且只在特定的一些地区才可以使用。

ส่วนพืชเศรษฐกิจอีกชนิด อย่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกอยู่ที่ประมาณ 6.8 ล้านไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นที่ชันและภูเขา โดยปกติหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรก็มักจะเผาไร่ข้าวโพด เพื่อเคลียร์พื้นที่สำหรับการปลูกในรอบต่อไป เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า และการใช้รถไถพรวนนั้นก็ไม่เหมาะในหลายพื้นที่
而另一种经济作物,饲料玉米,现在全国的种植面积大约为680万莱,大部分都种植在泰国的北部,那里的地理特征是绵延的山峰。一般在进行收割之后,农民通常就会选择将玉米地进行焚烧,以便于继续进行下一轮种植。因为这样成本会比较低,而且在某些地区也并不适合使用拖拉机。

โดยสถานการณ์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในปัจจุบันนั้น มีความต้องการในตลาดอยู่ที่ 8 ล้านตันต่อปี แต่เราผลิตในประเทศได้เพียง 4 ล้านตันต่อปีเท่านั้น ส่วนที่เหลือจึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และหากเราไปดูสถิติการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านในปีที่ผ่านมา จะพบว่า เรานำเข้าจากเมียนมา 93% นำเข้าจากลาว และกัมพูชา อีก 2%
现在饲料玉米的生产状况是:市场每年的需求量是八百万吨,但泰国每年只能生产四百万吨,剩下的部分就必须从国外进口。如果我们观察过去从邻国进口的数据就能发现,泰国的进口93%都来自缅甸,还有2%来自老挝和柬埔寨。

ซึ่งการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเหล่านี้ จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า หรือไม่ต้องเสียภาษี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคมของทุกปี แต่ว่าสุดท้ายแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเรานั้น ก็ใช้วิธีการเผาไร่เหมือนกัน ทำให้ฝุ่นจำนวนหนึ่ง ปลิวพัดเข้ามายังประเทศไทย นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งว่า ทำไมปัญหาฝุ่นถึงรุนแรงในช่วงนั้น เพราะเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวและขายผลผลิตพอดี
从这些国家进口饲料玉米,在每年的二月到八月这个期间会获得进口税豁免资格,或者直接免税。但是这些和泰国领土接壤的国家同样也会使用焚烧这个方法,这就让一部分的粉尘飘到了泰国,这也就是在这个期间泰国的粉尘问题如此严重的原因之一了,因为这时正好是收获和售卖的季节。

อ่านมาถึงตรงนี้ คงพอเห็นภาพแล้วว่า การเผาในภาคเกษตรกรรม ส่วนหนึ่งมาจากข้อจำกัดและปัญหาในโครงสร้างการผลิต ทั้งยังมีเรื่องการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นตามมา เพราะเราไม่มีวัตถุดิบที่เพียงพอต่ออุตสาหกรรมอาหารเลี้ยงสัตว์ ในประเทศ
读到这里,大家应该都能看出来了,农业方面的焚烧一部分来自于某些限制和生产的结构问题,一部分也是因为泰国从邻国进口,于是焚烧行为便接踵而来,因为在泰国是没有足够的原料去支撑动物养殖业的。

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็มีความพยายามในการจัดการเรื่องฝุ่นที่เกิดจากการเผาในภาคการเกษตร ตัวอย่างเช่น การรับซื้ออ้อยสดในราคาที่สูงกว่าอ้อยไฟไหม้ แต่พืชเศรษฐกิจอื่น ๆ อย่าง ข้าวโพด นั้น ยังไม่มีนโยบายการจัดการที่ชัดเจน จึงทำให้ปัญหาฝุ่นจากภาคเกษตรกรรมยังแก้ไขไม่ได้มากนัก ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า การแก้ไขปัญหานี้ในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของใครคนเดียว แต่เป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องแก้ไขร่วมกัน ซึ่งไม่รู้ว่าประโยชน์ที่เหล่าเกษตรกรได้รับจากการขายอ้อย ขายข้าวโพดนั้น มันคุ้มค่ากับการที่ทุกคนในประเทศ ต้องสูดดมอากาศฝุ่นพิษหรือไม่..
尽管如此,现在泰国也有在努力着手解决农业方面的焚烧造成的粉尘问题,比如:以更高的价格去购买新鲜甘蔗而不是焚烧过的甘蔗。但其他的经济作物比如玉米,还没有较为清楚的解决政策,所以这方面的粉尘问题还没有得到很好的解决。可能需要继续关注在未来这个问题该怎样去解决,因为这件事并不只是关乎某个人,每个身处其中的人都要携手共同去解决。也不知道那些从售卖甘蔗和玉米中获利的农民,他们所得的利益与国家的人民受到的有毒粉尘危机相比,究竟是否值得。

看来泰国的空气净化措施任重而道远啊......

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自longtunman,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。