泰国人的创造力丰富,民间传说也非常丰富,这造就了很多鬼神都被搬上了影视剧的荧幕,尤其是享誉世界的鬼片,相信大家都有所耳闻。今天,我们就来认识一下两个经常出现在荧幕上的泰国阿飘,看看他们都是怎样神奇的存在。

文章带读:
(音频-可在沪江泰语公众号上)
朗读:(泰)ฟ้าใส

กระสือ และ กระหัง เป็นผีที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด และได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง เช่น กระสือสยาม, แสงกระสือ ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับ “ผีไทย” บางเรื่องมาแรงจนต้องทำภาคต่อ สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะเข้าสู่ยุคดิจิทัล แต่ตำนานความเชื่อพื้นบ้านของไทยก็ยังคงอยู่คู่สังคมมาโดยตลอด โดยเฉพาะ กระสือ และ กระหัง “คู่จิ้น” ผีไทยสมัยโบราณ ที่หยิบยกมาเล่าขานเมื่อไหร่ก็ได้รับความสนใจเสมอ
Krasue和Krahang是泰国人最熟悉的 鬼,在电影荧幕上都曾多次出现,比如《噬血双姝》《落头氏之吻》就有,有的鬼片很受欢迎还拍了续集,表明虽然已经到了电子时代,但是泰国民间的信仰仍然伴随着泰国社会,尤其是泰国古代这对“荧幕情侣” Krasue-Krahang,不管什么时候被提起都会引起大家的关注。

ผีคู่รัก “กระสือ-กระหัง” ถือเป็นผีเก่าแก่แต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา มีปรากฏหลักฐานในกฎหมายตราสามดวง ผีทั้ง 2 ชนิดเป็นผีในคติความเชื่อของคนไทยภาคกลาง และยังอยู่ในความรับรู้ของคนไทยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มีการนำเรื่องเล่าผีดังกล่าวมาสร้างสรรค์เป็นวรรณกรรมและภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยนิยมนำเรื่องผีกระสือมาเล่ามากกว่าผีกระหัง
Krasue-Krahang这对情侣 最早出现在阿瑜陀耶时期,在《三章法》中曾经出现过,这两种鬼是泰国中部人的民间信仰,一直流传至今,在很多民间文学和电影中都曾经出现,Krasue出现的要比Krahang更加频繁。

ก่อนจะเข้าเรื่องความรักของสองผี ในที่นี้จะพาไปทำความรู้จัก กระสือ และ กระหัง พอสังเขปก่อน
在说到这两只鬼的 爱情故事之前,先来简单了解一下Krasue-Krahang这二位。

[ส่วนต่อไปนี้เป็นการคัดย่อและสรุปเนื้อหาบางส่วนจากบทความของ ผศ.ดร. อภิลักษณ์ เกษมผลกูล ชื่อ “กระสือ” แฟน “กระหัง” ความหลังของคู่รักผีไทย (อ่านฉบับเต็มได้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ 2566)]
[接下来的内 容节选自博士助理教授Aphilak Kasempholkoon的文章《“Krahang”的女友“Krasue” 泰国鬼背后的爱情故事》(原文发表于《文化艺术杂志》2023年2月)]

 

ผีกระสือ (ฝ่ายหญิง)
Krasue( 女方)
(附在女人身上的食屎鬼,也叫飞头鬼)


(《落头氏之吻》宣传照,讲述的就是飞头鬼和为爱拯救的故事)

ผีกระสือ เป็นผีเก่ามาแต่ครั้งกรุงเก่าใน กฎหมายตราสามดวง ฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่าถ้ามีคำฟ้องร้องเรียนและพบว่าเป็นผีดังมีรายชื่อดังต่อไปนี้จะไม่รับฟ้องให้ยกฟ้อง ดังปรากฏข้อความว่า “ถ้าเป็นสัจว่าเป็นกระสือกระหางจะกละจริงไซร้” ซึ่งกล่าวถึงผีกระสือ ผีกระหัง และผีจะกละ
Krasue是《三章法》中古来的鬼怪 ,讲述到如果有案件起诉的话,看到这样的鬼就不能接受起诉,提到的鬼有Krasue、Krahang和Cha kla。

พระยาอนุมานราชธน หรือ เสฐียรโกเศศ อธิบายไว้ในหนังสือผีสางเทวดา ว่า ชื่อกระสือนี้เป็นชื่อผีที่ชาวภาคกลางรับรู้กัน เป็นผีผู้หญิง (ในภาคกลางไม่ปรากฏว่าเป็นผีผู้ชาย) โดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบกินของสดของคาวและชอบออกหากินในเวลากลางคืน ดึกๆ เวลาเคลื่อนที่ไปจะมีแต่หัวและตับไตไส้พุงเท่านั้น ส่วนร่างกายไม่ไปด้วยคงทิ้งไว้ที่บ้าน เมื่อไปจะเห็นเป็นดวงไฟเป็นแสงเรืองวาบๆ สีเขียวเป็นดวงโต
Phraya Anuman Rajadhon在《鬼神》一书中提到,Krasue在泰国中部地区人的意识中为女鬼且多为老奶奶的形象(中部地区不以男性出现),在深夜的时候喜欢吃新鲜的荤腥东西,经常在半夜出来找吃的,出来的时候只有头和肠子,身体会扔在家里,看到的时候会有一闪一闪的绿色灯光。


(《落头氏之吻》剧照)

หากใครเพิ่งคลอดลูกใหม่ๆ ถ้าผีกระสือได้กลิ่นสดคาวก็จะไปกินหญิงคลอดลูก หรือไม่ก็กินเด็กแรกเกิดเสีย เหตุนี้ตรงใต้ถุนเรือนที่มีร่องถ่ายอุจจาระปัสสาวะ โบราณมัก “สะ” คือสุมด้วยหนามพุทราเพื่อให้ผีกระสือไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะกลัวหนามจะเกี่ยวไส้
如果有谁刚刚生下孩子,Krasue闻到了味道就会吃掉生孩子的女人或者刚生下的孩子,正因为如此在高脚屋大便小便地方,古人经常用枣树的刺来让鬼不敢靠近, 因为刺会勾住她的肠子。

ผีกระสือชอบกินอาจม (อุจจาระ) หากกินแล้วมันเห็นผ้าของใครตากทิ้งค้างคืนไว้ ก็เอาผ้านั้นเช็ดปากของมันที่เปื้อนอุจจาระ ตื่นเช้าจะเห็นผ้าที่ตากไว้มีรอยเปื้อนเป็นดวงๆ ถ้าเอาผ้านั้นไปต้ม ผีกระสือจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนปาก ทนไม่ไหวต้องมาขอร้องไม่ให้ต้มผ้านั้นอีกต่อไป
Krasue喜欢吃排泄物,如果吃了之后看到谁的衣服晾在外面过夜,就用衣服擦她被粪便弄脏的嘴,早上起来会看到晾着的衣服上有圆圆的脏污,如果把衣服拿去煮的话就会让Krasue感到灼伤疼痛, 会出来乞求不要再煮那件衣服。

เสฐียรโกเศศ มีคำอธิบายเรื่องผ้าเช็ดปากกระสือไว้ว่า ที่ผ้ามีรอยเปื้อนมักมีในหน้าฝน คงเนื่องจากผ้าเกิดเป็นราขึ้น ที่ว่าถูกผีกระสือเช็ดปากก็เป็นการดี จะได้ไม่เผอเรอทิ้งผ้าที่ตากไว้จนค้างคืน
Phraya Anuman Rajadhon 释到了Krasue擦嘴的脏衣服,在雨季中衣服会有弄脏的痕迹,有可能是衣服发霉,被说成是Krasue用来擦过嘴(泰国民间有这样的说法)是以防大意把衣服晾在外面过夜。

คำว่ากระสือนี้เป็นคำเรียกเฉพาะถิ่นของชาวภาคกลาง ในภาคเหนือและอีสานจะเรียกผีที่ชอบกินของสดของคาวและออกหากินเวลากลางคืน ไปไหนมีแสงแวมๆ เป็นดวงเช่นเดียวกับผีกระสือนี้ว่า “ผีโพง” หรือโพลง โดยผีโพลงกับผีกระสือจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่จัดอยู่ในผีพวกเดียวกัน ซึ่งจุดที่ทำให้ต่างกันอย่างชัดเจนคือ ผีกระสือจะมีแต่ผีผู้หญิงเท่านั้น ส่วนผีโพลงไม่ได้มีการระบุเพศไว้
Krasue这个词是泰国中部人专门使用的,北部和东北部会把这样的鬼叫做“Phong”, Krasue和Phong有一些细微的差别,但是仍然算同一类鬼,最明显的区别是Krasue只有女性,Phong没有明确的性别。

 

ผีกระหัง (ฝ่ายชาย)
Krahang(男方)
附在男人身上的食屎鬼

ผีกระหัง โบราณเรียกว่า กระหาง เป็นผีผู้ชาย คู่กับผีกระสือซึ่งเป็นผู้หญิง เป็นผีเก่าที่ปรากฏในกฎหมายตราสามดวง เช่นเดียวกับผีกระสือ นับเป็นผีคู่บุญกันมา กระหังเป็นผีที่พบเฉพาะในภาคกลางและไม่พบในชาติอื่นๆ นับเป็นผีที่แสดงเอกลักษณ์ของไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมข้าวได้อย่างดี เพราะมีทั้งปีกที่ใช้กระด้งฝัดข้าว และพาหนะคือสากตำข้าว แต่ด้วยความที่เป็นผีเฉพาะถิ่น ทำให้ไม่มีข้อมูลกล่าวถึงมากนัก
Krahang为 男性,和为女性的Krasue成对出现,也在《三章法》中出现,Krahang只在泰国中部出现,其他国家都没有,很好的展现了泰国农耕文化特色,因为两翼为晾晒粮食的竹篾,坐骑也是舂粮食的杵子,但由于只是地方民间的鬼,所以资料很少。

เสฐียรโกเศศ กล่าวว่า ผีชนิดนี้ไม่มีใครทราบเรื่องมันมากนัก รู้แต่ว่ารูปร่างก็เป็นคนเหมือนกัน แต่ว่ามีหางอยู่ที่ก้น เพราะฉะนั้นจึงระวังก้นของมันนัก ไม่ยอมให้ใครลูบก้นเพราะกลัวจะคลำถูกหางและรู้ว่าเป็นกระหัง ตรงกันข้ามกับผีกระสือซึ่งชอบลูบก้นคน ผีกระหังนั้นแม้มันมีหาง มันยังใช้สากต่างหางอีกชั้นหนึ่ง แล้วเอากระด้งทำปีก บินไปได้ในเวลากลางคืน ส่วนเรื่องที่จะทำอันตรายคนอย่างไรไม่ปรากฏ
Phraya Anuman Rajadhon提到,这种鬼并不被人熟知,只知道外表很像人,但是屁股上长有尾巴,所以他非常在意自己的屁股,不让人碰,担心被认碰到尾巴让人知道他是Krahang,相反的是,Krasue很喜欢摸人的屁股。虽然Krahang有尾巴但还是有一个杵子,用竹篾当作翅膀,半夜的时候到处飞,会对别人造成何种危险还没发现

ปัจจุบันเล่ากันว่า ผีกระหังจะเป็นผู้ที่เล่นไสยศาสตร์ เมื่อไม่สามารถควบคุมอาคมได้ก็จะเข้าตัวและกลายเป็นผีกระหัง หรือเป็นชายที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้กับครูบาไสยศาสตร์ แล้วทำผิดคำสัญญาจึงกลายเป็นผีกระหัง กระหังเป็นผีที่ชอบเก็บตัว อยู่ในที่ที่มีหน้าต่างปิดมิดชิดและมืดทึบ ในกลางวันจะทบทวนวิชาไสยศาสตร์ที่เล่าเรียนมา พอตกกลางคืนจะออกหากิน
现在大家认为,Krahang是会使用巫术的人,当无法控制巫术的时候就会附身变成Krahang,或者成为和巫师有过约定的男人,违背约定就会变成Krahang,Krahang喜欢把自己藏在窗户紧闭的空间,白天复习学到的巫术,晚上出来找吃的。

ด้วยเหตุที่ผีกระหังเกิดจากผู้มีความเก่งกล้าในคาถาอาคมต่างๆ รวมทั้งไสยศาสตร์มนต์ดำมากมาย จึงทำให้เมื่อกลายมาเป็นผีกระหังแล้วก็จะมีผู้ต้องการจับผีกระหัง โดยเฉพาะผู้มีวิชาอาคมทั้งหลาย ดังนั้น กระหังจึงมักถูกล่าจากหมอผี เพื่อขโมยวิชาของกระหังมาเป็นของตัวเอง
因为Krahang在巫术方 面非常厉害,所以出现了很多人想抓Krahang,尤其是一些有这样知识的人,把Krahang的学识偷成自己的。

 

ผีคู่จิ้น “กระสือ-กระหัง”
Krasue和Krahang的爱情

ความรับรู้เรื่องความรักของ “กระสือ-กระหัง” มีมานานแล้ว แต่ไม่พบหลักฐานที่บันทึกแน่ชัด ในวรรณกรรมเรื่อง พล นิกร กิมหงวน ตอนผีกะสือ มีกล่าวถึงเหตุการณ์ที่บ้านพัชราภรณ์ เป็นเหตุการณ์ที่คู่สามีภรรยา คือเจ้าคุณประสิทธิ์กับคุณหญิงวาด ต่างสงสัยซึ่งกันและกัน โดยเจ้าคุณประสิทธิ์สงสัยว่าคุณหญิงวาดเป็นกระสือ ส่วนคุณหญิงวาดสงสัยว่าเจ้าคุณประสิทธิ์เป็นกระหัง สะท้อนว่าในความเป็นสามีภรรยา เมื่อจะกลายเป็นผีก็ยังเป็นผีคู่รัก “กระสือ-กระหัง” อีก
Krasue和Krahang的爱情故事由来已久,但是没有发现明确的证据,在一部文学作品《Phol Nikorn Kimnguan Krasue篇》中提到了Patcharaporn一家的故事,故事里的一对夫妻Prasit和Ward,互相怀疑,丈夫Prasit怀疑妻子是Krasue,妻子Ward怀疑丈夫是Krahang,表明了二者在变成Krasue和Krahang时也是夫妻关系。

ลักษณะร่วมของผีทั้งสองที่นำมาสู่เส้นทางรักครั้งนี้ที่เห็นชัดเจนคือ เป็นผีในภาคกลางที่เป็นคำ 2 พยางค์ ชื่อขึ้นต้นด้วย “กระ” เหมือนกัน ซึ่งน่าจะเป็นคำที่เติมเสียงหน้าเข้ามาภายหลัง พระยาอนุมานราชธน กล่าวถึงเรื่องนี้ในหนังสือนิรุกติศาสตร์ อธิบายว่า
这两种鬼 的共同特点清楚地表明二人的联系,他们的名字都有2个音节,都是Kra开头,应该是后来加进来的前缀。Phraya Anuman Rajadhon在《语文学》一书里这样解释:

นอกจากชื่อที่ขึ้นต้นด้วย “กระ” เหมือนกันแล้ว ยังพบความคล้ายคลึงถึงคุณสมบัติพิเศษ คือ การบินหรือลอยตัวได้ รวมถึงยังออกหากินตอนกลางคืนเหมือนกัน อีกทั้งเมนูโปรดที่เหมือนกัน ทำให้ไม่มีปัญหาเวลาออกเดต ทั้งนี้ในเวลากลางวันผีกระสือและผีกระหังจะมีร่างเหมือนมนุษย์ปกติ แต่มีนิสัยเก็บตัว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในความสัมพันธ์ฉันท์คู่รัก แม้กลางคืนจะถอดหัวกับไส้ไป แต่เมื่อหมดเวลาทำการก็กลับเข้าร่างปกติดังเดิม
除了Kra的前缀之外,一种共同的特点就是他们都会飞,也都在夜晚出来找吃的,另外他们最喜欢的食物也是一样的,出来约会的时候不会有问题。白天的时候他们都是以人形出现,但是不喜欢出门,因此爱情关系不存在问题,虽然夜晚会褪去人形,但时间到了就会变回人形。

 

大家有看过这两只鬼的故事吗?想了解更多泰国阿飘的,戳这边>>>泰国鬼界六巨头,小编带你愉快拆解,快来为你支持的鬼投一票!

 

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。